“ ปืน” ปกริช กี่สิ้น นำลูกทีมกลุ่มรักป่าตอง ประกาศสู้ศึกชิงเก้าอี้นายกฯ เมืองป่าตอง

โพสเมื่อ : Sunday, January 24th, 2021 : 6.03 pm

“ ปืน ” ปกริช กี่สิ้น กลุ่มรักป่าตอง นำลูกทีมประกาศความพร้อมลงชิงชัยเก้าอี้นายกเทศมนตรี และ สมาชิกเทศบาลเมืองป่าตอง ชูนโยบาย เราคือครอบครัวเดียวกัน ลงมือทำคือคำตอบของการพัฒนา และ ทำทันที ทำให้ดีที่สุดเพื่อพาป่าตองพ้นวิกฤต

 


เริ่มคึกคักแล้วการเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง และ สมาชิกสภาเทศบาลเมืองป่าตอง ซึ่งในส่วนของสนามการเลือกทั้งเมืองป่าตองนับว่าเป็นสนามที่น่าจะมีการแข่งขันกันอย่างดุเดือด โดยวันนี้ (24  ม.ค.)  เวลา 14.00 น. กลุ่มรักป่าตอง นำโดย นายปกริช กี่สิ้น หรือ “ ปืน” ลูกชายนายเปี่ยน กี่สิ้น อดีตนายกเทศมนตรีเทศบาลตำบลป่าตองหลายสมัย ว่าที่ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง นำลูกทีมว่าที่ผู้สมัครสมาชิกเทศบาลเมืองป่าตอง (สท.) ทั้ง 3 เขต เปิดตัวอย่างเป็นทางการ  ณ โรงแรม เดอะรอยัล พาราไดซ์ โฮเต็ล แอนด์ สปา ต.ป่าตอง  อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต โดยมีสื่อมวลชน ประชาชนชาวป่าตองร่วมให้กำลังใจจำนวนมาก

นายปกริช กล่าวว่า กลุ่มรักป่าตอง เป็นกลุ่มการเมืองที่นายเปี่ยน กี่สิ้น (บิดา) อดีตนายกเทศมนตรีเมืองป่าตอง เป็นผู้ก่อตั้ง ตั้งแต่ พ.ศ.2537 ตังแต่ยังเป็นเทศบาลตำบลป่าตอง โดยกลุ่มรักป่าตอง เป็นกลุ่มการเมืองทางเลือกให้กับพี่น้องชาวป่าตอง ที่ต้องการการเมืองที่เข้าใจปัญหาของคนตั้งแต่ระดับรากหญ้าไปจนถึงนักธุรกิจ ซึ่งตนมองว่าเมืองป่าตองต้องการผู้นำที่มีมุมมองในระดับสากล มุมมองที่ว่าไม่ใช่แค่การมีวิสัยทัศน์หรือวางนโยบายและสั่งการลงมาเท่านั้น แต่จะต้องรู้ความต้องการของพี่น้องประชาชน

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานการณ์โควิด-19 ปัญหาปากท้องประชาชนจะแก้อย่างไร ความเป็นอยู่พื้นฐานของพี่น้องประชาชน เรื่องของปากท้อง เรื่องของอาชีพ ก็สำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องที่จะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน เพราะขณะนี้ป่าตองเป็นเมืองที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก จึงจำเป็นที่จะต้องผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วนเพื่อให้ชาวป่าตองมีรายได้เข้า ถ้ามีโอกาสได้เข้าไปบริหารสิ่งที่คิดว่าสามารถทำได้เลยคือการทำให้พี่น้องชาวป่าตองมีพื้นที่ในการค้าขาย ลดเรื่องของค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันในการจำหน่ายสินค้าราคาถูกโดยหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นไข หรือสินค้าอุปโภคและบริโภค

ส่วนเรื่องของระบบสาธารณูปโภคพื้นฐาน และการนำพาการท่องเที่ยวไปสู่ระดับสากล โดยเฉพาะเรื่องของการท่องเที่ยวนั้นในอนาคต ถ้าเปิดประเทศได้ก็จะต้องมีการออกไปทำกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเพื่อเชิญชวนชาวต่างประเทศเดินทางเข้ามา แต่ในช่วงที่ยังไม่สามารถเปิดประเทศได้ก็จะต้องทำให้คนไทยเดินทางมาเที่ยวป่าตองให้มากขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจสามารถเดินหน้าไปได้ โดยการประสานกับทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นด้วยกัน

นายปกริช กล่าวต่อไปว่า สาเหตุที่ตนตัดสินใจลงสมัครชิงเก้าอี้นายกเทศมนตรีเมืองป่าตองในครั้งนี้ เนื่องจากเป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ปัจจุบันนี้เมืองป่าตองมีปัญหาหลายด้านรุมร้าวและถือว่าอยู่ในขั้นวิกฤต สถานการณ์ในครั้งนี้เรียกร้องให้กลุ่มรักษ์ป่าตองกลับเข้ามาแก้วิกฤตในครั้งนี้ ส่วนสาเหตุว่าทำไมต้องเป็นคนที่ลงมาเล่นการเมือง แทนที่จะเป็นนายปรีชาวุฒิ กี่สิ้น ซึ่งพี่ชาย  เรื่องนี้ตนขอเรียนว่าพี่ชายตน มีหน้าที่ที่ต้องดูแลธุรกิจในครอบครัวเป็นหลัก ตนจึงต้องการสืบทอดเจตนารมณ์ของบิดาในการช่วยเหลือประชาชน จริงๆแล้วตนไม่ได้ทำงานการเมืองเฉพาะช่วงที่กำลังจะมีการเลือกตั้งเทศบาลในครั้งนี้เท่านั้น แต่ตนได้ติดตามบิดาลงพื้นที่แก้ไขปัญหาพี่น้องประชาชนตลอดระยะเวลาที่ท่านเป็นนายก จนถึงวาระสุดท้าย จึงไม่อยากให้ความตั้งใจของบิดาไม่สูญเปล่า เหมือนคำที่ท่านมักพูดอยู่เสมอว่า “นายกหน้าดำ ประชาชนหน้าใส” การแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนถือว่าเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ตนจึงอาสาเข้ามาทำงานในจุดนี้เพื่อนำพาป่าตองให้พ้นวิกฤติ ปัญาหป่าตองจะ “ทำทันที ทำดีที่สุด”

สำหรับรายชื่อ ว่าที่ผู้สมัครสมาชิกเทศบาลเมืองป่าตองในนามกลุ่มรักป่าตอง ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย เขต 1 นายมาโนด ทองหอม  นายวสันต์ ชายสิทธิ์  นายจรวย  เพ็ชรหึง  นายสมชาย ขวัญยืน  นายประสิทธิชัย พัฒกอ   นายมานะ พันธ์ฉลาด  เขต 2” นายธานินทร์ อรรถทรัพย์ นายสหัตถ์ ตามชู  นายวิรัช ประทีป ณ ถลาง นายบัญญัติ สมนาม  นายสุทธิกาญจน์ วันยนาพร    นายบุญแทน ภิรมย์ฤทธิ์  และเขต 3 นายมานิจ อยู่เย็น   นายพฤษภาคม เศรษฐ์ทอง   นายพงศ์พิสุทธิ์ กิจก่อทรัพย์  นายเมธาสิทธิ์ กาญจนะ  นายษณกร กี่สิ้น  และนายสายชล สมบัติ