นายกประยุทธ์ “ยาหอม”หนุนทุกโครงการที่เสนอ ส่วนชาวเลฯ เดินเท้าขอยื่นหนังสือนายกฯ แต่ถูกสกัดกลางทาง

โพสเมื่อ : Friday, September 16th, 2016 : 7.28 pm

นายกรัฐมนตรีพบคนภูเก็ต พร้อมประชุมกรอ.อันดามัน แจกยาหอมพร้อมให้การสนับสนุนตามที่แต่ละจังหวัดเสนอ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้และงบประมาณทั้งถนน สะพาน และการพัฒนาด้านอื่นๆเดินหน้าสั่งเคลียร์ปัญหาการออกเอกสารสิทธิที่ดิน ทัวร์ศูนย์เหรียญ และเร่งแก้ปัญหาเรื่องที่อยู่ของชาวเล หาดราไวย์  ส่วนชาวเลราไวย์ จะยื่นหนังสือกลับถูกสกัดกลางทาง

DSC_0476

เมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (16 ก.ย.) ที่หอประชุมมหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี พลเอกอนุพงศ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง เดินทางมาพบปะประชาชนชาวภูเก็ต โดยมีหน่วยงานราชการ ภาคเอกชน และประชาชนชาวภูเก็ต ให้การต้อนรับ เป็นจำนวนมาก

โดยนายจำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ได้นำเสนอโครงการพัฒนาจังหวัดภูเก็ต เพื่อขอการสนับสนุนงบประมาณจากรัฐบาลมาดำเนินการและบางโครงการขอให้ทางนายกรัฐมนตรีเร่งรัดหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไขปัญหา เพื่อให้การพัฒนาจังหวัดภูเก็ตทันกับการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคม ประกอบด้วย โครงการก่อสร้างรถไฟฟ้ารางเบาจากสนามบินภูเก็ตถึงห้าแยกฉลอง ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแก้ไขแบบรายละเอียดของโครงการ โครงการก่อสร้างศูนย์ประชุมและนิทรรศการ ที่บ้านท่าฉัตรไชย ที่โครงการได้ถูกระงับ แต่ทางจังหวัดภูเก็ตต้องการให้รัฐบาล นำโครงการนี้กลับมาใหม่ โครงการก่อสร้างถนนสายบ้านสาคู่ – เกาะแก้ว ที่กรมทางหลวงกำลังศึกษาออกแบบรายละเอียด โครงการขุดอุโมงค์หรือทางลอดป่าตองและทางยกระดับเชื่อมกับอุโมงค์ โครงการถนนสายป่าคลอก-สนามบิน และโครงการปรับปรุงถนนสายเลียบสนามบินระยะทางประมาณ 5 กิโลเมตร เป็นต้น

DSC_0474

อย่างไรก็ตาม หลังพบปะประชาชนชาวภูเก็ตแล้วเสร็จ กลุ่มชาวเล หาดราไวย์ ต.ราไวย์ อ.เมือง จ.ภูเก็ต ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแก้ไขปัญหาชาวเล 2 เรื่องด้วย คือ แก้ปัญหาที่อยู่อาศัยของชาวเลหาดราไวย์ และ การขอออกโฉนดชุมชน ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้รับหนังสือดังกล่าวเพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาต่อไป หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีได้ประชุมร่วมกับคณะกรรมการ กรอ.ส่วนกลาง และคณะกรรมการ กรอ.ส่วนภูมิภาคภาคใต้ฝั่งอันดามัน (ภูเก็ต พังงา ระนอง กระบี่ ตรัง) เพื่อร่วมกันหารือด้านต่างๆ เกี่ยวกับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจของฝั่งอันดามัน โดยมีหน่วยงานภาครัฐและเอกชนจากส่วนกลางและฝั่งอันดามันเข้าร่วม ณ.หอประชุมเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต

DSC_0471

พลเอกประยุทธ์ กล่าวว่า สิ่งที่ทางจังหวัดภูเก็ตและที่ประชุมกรอ.ได้นำเสนอขอการสนับสนุนจากรัฐบาลเพื่อพัฒนาแต่ละจังหวัดนั้น ทางรัฐบาลพร้อมที่จะให้การสนับสนุน ทั้งในส่วนของโครงการที่เป็นการก่อสร้างถนน สะพาน และการพัฒนาด้านการท่องเที่ยว โดยเฉพาะโครงการที่มีความจำเป็นและจะต้องเกิดขึ้นทางรัฐบาลจะเร่งดำเนินการในการจัดสรรงบประมาณให้ ส่วนโครงการที่จะต้องมีการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม ก็จะต้องพิจารณาผลกระทบสิ่งแวดล้อมอย่างรอบครอบ เพราะการพัฒนานั้นจะต้องมีความสมดุลกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อม เพราะรัฐบาลไม่สามารถที่จะจัดสรรงบประมาณให้พร้อมๆกันทุกโครงการได้ จากงบประมาณที่อยู่อย่างจำกัด

DSC_0466

อย่างกรณีของจังหวัดภูเก็ตนั้น มีศักยภาพมากในการพัฒนา ทั้งในเรื่องของการท่องเที่ยว อาหารการกิน สมาร์ทซิตี้ โดยเฉพาะประชารัฐที่ได้มีการจัดตั้งเป็นบริษัทประชารัฐภูเก็ตเป็นจังหวัดนำร่อง ที่เกิดจากความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชนและภาคประชาชน ทั้งในเรื่องของล็อบเตอร์ สับปะรด นมแพะ เป็นต้น แต่การพัฒนานั้นจะต้องไม่ลืมเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของภูเก็ต และผมจะรอดูภูเก็ตในอีก 5-10 ปีข้างหน้า

DSC_0499

นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวถึงการออกสารสิทธิที่ดินในจังหวัดภูเก็ต ว่า เรื่องนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการไปตามกฎหมาย ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบ เพราะเป็นเรื่องที่มีความซับซ้อน ไม่สามารถแก้ปัญหาให้จบได้ในวันเดียว และในส่วนของปัญหานอมินีทัวร์จีนและทัวร์ศูนย์เหรียญก็เช่นกัน ได้สั่งการให้มีการดำเนินการในเรื่องนี้แล้วเช่นกัน มีการจับกุมทัวร์ศูนย์เหรียญกันไปบ้างแล้ว สำหรับปัญหาชาวเลที่ได้มายื่นหนังสือนั้น ได้รับหนังไว้แล้ว รัฐบาลจะจัดหาที่อยู่ให้ แต่เท่าที่ทราบที่อยู่ที่ทางหน่วยงานรัฐจัดให้นั้นชาวเลไม่ต้องการ ชาวเลยังคงยืนยันที่จะอยู่ที่เดิม ซึ่งมีข้อพิพาทกับเจ้าของที่ดิน ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีการพิสูจน์การถือครองที่ดินกันตามกฎหมายและเอกสารหลักฐานของที่ดินต่อไป

DSC_0423

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้าที่นายกรัฐมนตรีเดินทางมาที่มหาวิทยาลัยราชภัฎภูเก็ต ได้มี เครือข่ายสิทธิคนจนพัฒนาภูเก็ตประมาณ 200 คน  เดินทางเพื่อยื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีให้แก้ไขเพิกถอนการออกเอกสารสิทธิ์ทับที่ชุมชนชาวเลตำบลราไวย์ จำนวน 19 ไร่ และเรื่องการออกโฉนดชุมชน ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต สกัดกันที่บริเวณถนนกู้กู ใกล้สี่แยกมหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต เพื่อไม่ให้เดินทางไปยื่นหนังสือ ซึ่งในระหว่างนั้นทางกลุ่มเครือข่ายได้นั่งอยู่บนถนนทำให้ต้องปิดการจราจรไป 1 เลน ทำให้รถติดยาวเหยียด จากนั้น พล.ต.ธีร์ณฉัฎฐ์ จินดาเงิน ผู้บัญชาการมลฑลทหารบกที่ 41 พล.ต.ต.ธีรพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ตได้เปิดโต๊ะเจราจากับแกนนำและยื่นข้อเสนอว่าขอให้ส่งตัวแทนจำนวน 5 คน ไปยื่นหนังสือกับ พลเอกวิลาศ อรุณศรี เลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน  ซึ่งทางกลุ่มเครือข่ายก็ยินยอมที่จะไปยื่นหนังสือกับเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หลังจากที่มีการยืนหนังสือดังกล่าวทางตัวแทนเครือข่ายฯพอใจและเชื่อว่าปัญหาที่เกิดขึ้นมานานจะได้รับการแก้ไขในทิศทางที่ดีขึ้น

DSC_0419