ททท.ภูเก็ตพา ท้าเที่ยวข้ามภาค! “ตามรอยพระบาท ภูเก็ต-เชียงใหม่ –ลำปาง-ลำพูน”

โพสเมื่อ : Saturday, March 11th, 2017 : 3.42 pm

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับสายการบินไทยสมายล์ จัดกิจกรรม “ท้าเที่ยวข้ามภาค! เส้นทางตามรอยพระบาท ภูเก็ต-เชียงใหม่ –ลำปาง-ลำพูน” นำสื่อมวลชนท้องถิ่นทุกแขนง เก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยว

ระหว่างวันที่ 18-20 กุมภาพันธ์ 2560ที่ผ่านมา การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต ร่วมกับสายการบินไทยสมายล์ จัดกิจกรรม “ท้าเที่ยวข้ามภาค! เส้นทางตามรอยพระบาท ภูเก็ต-เชียงใหม่ –ลำปาง-ลำพูน” นำสื่อมวลชนท้องถิ่นทุกแขนง เก็บเกี่ยวประสบการณ์การท่องเที่ยว นำทีมโดยนายอุทิศ ลิ่มสกุล รองผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานภูเก็ต เพื่อประชาสัมพันธ์สร้างกระแสกระตุ้นให้คนไทยเดินทางท่องเที่ยวข้ามภูมิภาคกันมากขึ้น โดยเฉพาะในจังหวัดภูเก็ตและพื้นที่ใกล้เคียงที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง มีเที่ยวบินตรงจากภูเก็ตไปยังภาคเหนือ ทั้ง เชียงใหม่ เชียงราย หลายสายการบิน ที่จะพาทุกท่านบินลัดฟ้าข้ามภูมิภาคจากภูเก็ตไปยังจังหวัดเชียงใหม่ ดินแดนล้านนาศูนย์กลางการเดินทางท่องเที่ยวในภาคเหนือของประเทศไทย

ทางททท.จึงนำสื่อมวลชนท้องถิ่นจังหวัดภูเก็ตเดินทางเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวจริง และนำประสบการณ์ตรงเผยแพร่ประชาสัมพันธ์แห่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงภูมิภาค อีกทั้งยังเป็นการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวตามรอยพระบาทในหนังสือ “70 เส้นทางตามรอยพระบาท” ที่ทาง ททท.จัดทำขึ้นเพื่อแนะนำเส้นทางท่องเที่ยวตามโครงการหลวงและโครงการตามพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 ที่สวยงามและครบครัน สามารถเป็นได้ทั้งแหล่งเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวไปพร้อมกัน

โดยกิจกรรมในครั้งนี้ เริ่มต้นออกเดินทางจากสนามบินภูเก็ต ด้วยสายการบินไทยสมายล์ซึ่งมีเที่ยวบินตรงจากภูเก็ตสู่จังหวัดเชียงใหม่ทุกวัน ใช้เวลาบินประมาณสองชั่วโมง ออกจากสนามบินภูเก็ตเวลา 12.35 น.ถึงเชียงใหม่เวลา 14.30 น. ระหว่างการเดินทางมีบริการอาหารและเครื่องดื่มเมื่อถึงสนามบินเชียงใหม่แวะรับประทานอาหารเหนือแท้ๆ ล่ำแต้ๆ จุดหมายของคณะเรา คือ หมู่บ้านแม่กำปอง อ.แม่ออน จ.เชียงใหม่ หมู่บ้านตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีการอนุรักษ์ผืนป่าและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่นี้นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสความงดงามทางธรรมชาติ วิถีชีวิตเรียบง่ายของชาวบ้าน และอากาศที่เย็นสบายในช่วงปลายปีและต้นปี เพราะหมู่บ้านแห่งนี้ตั้งอยู่ในหุบเขา

สำหรับบ้านแม่กำปองสามารถมาเที่ยวได้ทั้งแบบวันเดย์ทัวร์ หรือ ค้างคืนก็ได้ มีที่พักให้เลือกทั้งแบบโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่รวมตัวกันหรือพักแบบรีสอร์ตที่ช่อนตัวอยู่ท่ามกลางแมกไม้ และสายธารของน้ำตกสายเล็กๆ ไหลผ่านหมู่บ้านหมู่บ้านตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีการอนุรักษ์ผืนป่าและภูมิปัญญาท้องถิ่นหมู่บ้านตัวอย่างของการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ ที่มีการอนุรักษ์ผืนป่าและภูมิปัญญาท้องถิ่นไม่ว่าจะเดินไปจุดไหนของแม่กำปองคุณจะได้สัมผัสกับเสียงน้ำไหลตลอดเส้นทาง มีร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆให้ได้นั่งจิบกาแฟดื่มด่ำธรรมชาติ พลาดไม่ได้ที่จะแวะแซะภาพเก๋ๆ กับผนังร้านกาแฟลุง ลองเลือกมาใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ที่บ้านแม่กำปองสักวันสองวันฟินแน่นอน ว รีบจองตั๋วเครื่องบินไทยสมายล์แพคกระเป๋า มานอนฟังเสียงน้ำตก กันได้เลย

ไม่ไกลจากหมู่บ้านแม่กำปอง เรายังได้ตามรอยพระบาทไปที่ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก ตำบลห้วยแก้ว กิ่งอำเภอแม่ออน จ.ใหม่ เป็นอีกศูนย์ฯ หนึ่งที่เกิดจากน้ำพระทัยและพระวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (ร.9) พระองค์ทรงพระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ประมาณ 300,000 บาท ก่อสร้างศูนย์พัฒนาโครงการหลวงตีนตก เพื่อเป็นแหล่งพัฒนา สาธิต และส่งเสริมการเพาะเห็ดหอม และกาแฟให้เป็นอาชีพเสริมให้แก่ ราษฎรนอกเหนือจากการปลูกเมี่ยงเพื่อส่งเสริมให้เกษตรมีรายได้เสริมนอกจากการปลูกเมี่ยง โครงการหลวงตีนตกยังเปิดให้บริการในส่วนของที่พักอีกด้วย

เต็มอิ่มกับธรรมชาติของหมู่บ้านแม่กำปองและโครงการหลวงตีนตกกันแล้ว มุ่งหน้าสู่ อ.เมืองปาน จ.ลำปาง เพื่อสัมผัสความงดงามตามธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลวังเงิน ทริปนี้คณะของเราเลือกใช้บริการรถสองแถวของชาวบ้านที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เพราะเกรงว่ารถตู้อาจจะไม่สะดวกในการเดินทางในบางช่วงที่เป็นเนินสูงและโค้ง ประกอบกับคนขับชำนาญทางเป็นอย่างดี สอบถามราคาค่าบริการคนละ 100 บาท ไป-กลับ ผู้โดยสาร 5 คนขึ้นไป หรือจะเหมาคัน 500 บาท (ไปถึงบริเวณกิ่วฝิ่น) เมื่อมาถึงเขตอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จุดรอยต่อ จ.เชียงใหม่-ลำปาง ต้องแวะชมวิวจุดที่เรียกว่า “กิ่วฝิ่น” ต้องเดินขึ้นเนินไปประมาณ 300 เมตร เมื่อขึ้นมาถึงต้องร้อง “ว้าว” กับความสวยงามของธรรมชาติเบื้องหน้าเต็มไปด้วยผืนป่าและเทือกเขาสลับซับซ้อนสุดลูกหูลูกตาสูดอากาศบริสุทธิ์ให้เต็มแรง หายเหนื่อยทันที

มาถึงอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน ก็ต้องไปแช่น้ำแร่ในธารน้ำแร่ ที่เต็มไปด้วยโขดหินธรรมชาติ ที่สวยงามแทรกกอยู่ท่ามกลางแอ่งน้ำร้อน น้ำแร่ที่มีอุณหภูมิสูง ถึง 70-80 องศาเซลเซียส สามารถแช่ไข่ให้สุกได้ภายใน 15 นาที ไข่จะมีลักษณะไข่แดงสุกไข่ขาวสุกไม่แข็งจะ เหมือนมะพร้าวอ่อน เมื่อนำมาปรุงเป็น “ ยำไข่แช่น้ำแร่ ” ซึ่งเป็นเมนูขึ้นชื่อ อร่อยยิ่งนัก นอกจากนี้บริเวณอุทยานฯยังมีน้ำตกแจ้ซ้อนที่มีความงดงามทางธรรมชาติ ที่เคยรับเสด็จสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ มาแล้ว น้ำตกแจ้ซ้อน เป็นน้ำตกที่กำเนิดจากลำน้ำแม่มอญ มีน้ำไหลตลอดทั้งปี มีแอ่งน้ำรองรับอยู่ตลอดสาย ไหลตกลงมาเป็นชั้น ๆ มี 6 ชั้น มีทางเดินสะดวก อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ 1 กิโลเมตรจากนั้นวกเข้าในตัวอำเภอเมือง จังหวัดลำปาง เพื่อสัมผัสวิถีชีวิตแบบล้านนาที่ กาดกองต้า ตลาดคนเดิน ชม ชอปสินค้าพื้นเมือง เปิดให้บริการทุกเย็นวันเสาร์และอาทิตย์ รับประทานอาหารเย็นพื้นถิ่นแบบล้านนา และนั่งรถม้าเลาะเลียบแม่น้ำวัง ชมเมืองเก่า คนท้องถิ่นบอกว่า การนั่งรถม้านี่แหละทำให้เห็นเมืองได้ 360 องศา ยิ่งเมื่อวิ่งผ่านย่านตลาดเก่าถึงถนนทิพย์เนตร ยิ่งรู้สึกเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในเมืองที่ไม่หมุนไปตามกาลเวลา เพราะตึกรางบ้านช่อง ที่นี่ยังอณุรักษ์สถาปัตยกรรมแบบดั้งเดิม

ลำปาง นับเป็นอีกจังหวัดในภาคเหนือที่เป็นแหล่งอารยะธรรมล้านนาไทยที่น่าสนใจ ทั้งขนบธรรมเนียมประเพณีที่สืบทอดกันมาแต่โบราณ มีวัดวาอารามและสถาปัตยกรรมท้องถิ่น มีรถม้าที่ไม่เหมือนใคร มีอาหารการกินแสนอร่อย มีวิถีชีวิตที่เรียบง่าย ทำให้ลำปางกลายเป็นเมืองที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นเป็นของตนเองจบจากจังหวัดลำปาง ก็ไปเที่ยวชมสะพานขาวทาชมภู อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน สะพานข้ามทางรถไฟสมัยสงครามโลก ที่สร้างมายาวนานตั้งแต่ปี พ.ศ.2464 ปัจจุบันนอกจากสะพานขาวทาชมภู จะเป็นทางรถไฟที่ทอดข้ามแม่น้ำแล้ว ยังใช้เป็นจุดแบ่งเขตระหว่างอุทยานแห่งชาติดอยขุนตาน กับเขตป่าสงวนแห่งชาติอีกด้วย อีกทั้งสะพานแห่งนี้ ยังถือว่าเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญจุดหนึ่งของการรถไฟแห่งประเทศไทย จึงทำให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว ทั้งไทยและต่างประเทศ จึงไม่ควรพลาดที่จะหาโอกาสมาแวะชมความงดงามของสะพานขาวทาชมภู จากนั้นก็เลยไปสักการะพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร ปูชนียสถานสำคัญในภาคเหนือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่เมืองลำพูนมาอย่างยาวนานตั้งแต่อดีตนับเวลามากกว่าพันปี ตั้งอยู่ใจกลางเมืองลำพูน นอกจากนั้นยังเป็นองค์พระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปี ระกา อีกด้วย แวะไปซื้อของฝากที่ตลาดวโรรส ตลาดพื้นเมืองชื่อดังของจังหวัดเชียงใหม่ ก่อนเดินทางกลับภูเก็ต
สำหรับจังหวัดลำพูน ได้รับคัดเลือกจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ( ททท.) ให้เป็นเมืองต้องห้ามพลาดพลาดพลัส เชื่อมโยงนักท่องเที่ยวกับจังหวัดลำปาง (ลำปาง Plus ลำพูน) โดยทั้งสองจังหวัดเป็นเมืองที่กลิ่นอายคล้ายคลึงกันทั้งในประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมแบบล้านนาอันเก่าแก่ วิถีชีวิตท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ เป็นเมืองน่ารัก และมีแหล่งท่องเที่ยวต้องห้ามพลาดที่สามารถเที่ยวเชื่อมโยงกันได้ทั้งรถยนต์และรถไฟ

สำหรับนักท่องเที่ยวที่วางแผนเดินทางมาเที่ยวแบบเนิบช้า ซึมซับอดีตกลิ่นอายแห่งล้านนาโบราณที่เมืองลำพูน บอกเลยว่า เมืองเล็กๆ แห่งนี้เป็นเมืองท่องเทียวแบบสโลว์ไลฟ์ ผู้คนน่ารัก เป็นกันเอง และใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ใครมาเยือนกี่ครั้ง ก็ติดตาตรึงใจและประทับใจไม่เคยเลือนหาย