ต้องรีบแล้วนะ คุ้มยิ่งกว่าคุ้มกับ บุฟเฟต์ผลไม้ อิ่มทะลุท้อง!  ที่ “ไร่รับตะวัน” จ.พังงา  

บอกเลยว่าไม่ควรพลาด บุฟเฟต์ผลไม้ อิ่มทะลุท้อง ที่ ไร่รับตะวัน จ.พังงา ในราคาสุดคุ้ม แค่ 200 บาท กินได้ไม่อั้น ไม่จำกัดเวลา พร้อมสัมผัสบรรยากาศ ท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง กับการเข้าสวนเก็บทุเรียน ชมการทำสวนผสม

สำหรับคนที่ชอบทานผลไม้ โดยเฉพาะทุเรียนบ้าน ขอแนะนำว่า ไปที่นี้เลย “ไร้รับตะวัน” จ.พังงา  รับรองไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน กับสโลแกนโดนๆ “บุฟเฟต์ ผลไม้ อิ่มทะลุท้อง คนไทย 200 บาท ต่างชาติ 300 บาท กินได้ไม่อั้น ” แค่เห็นสโลแกนก็ทำให้หลายคนตาโตแล้ว ขอบอกว่าถ้าไม่ไป ถือว่าพลาดอย่างไม่น่าให้อภัย เพราะราคานี้ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม กับผลไม้ที่มีเข้ามาเติมเต็มตลอด ทั้งทุเรียน มังคุด สละ ผลไม้ตามฤดูกาล

เมื่อเดินทางไปถึงไร่ เรามุ่งตรงเข้าไปที่อาคารต้อนรับ และสถานที่จัดบุฟเฟต์ผลไม้ ก็ต้องตะลึงกับผลไม้นานาๆ ชนิด ที่จัดวางเรียงรายอยู่บนโต๊ะ ทั้งทุเรียน มังคุด สละ แก้วมังกร มะละกอ สับปะรด ดูแล้วลานตาไปหมด จนเลือกไม่ถูกว่าจะกินอะไรก่อนหลัง โดยเฉพาะทุเรียนบ้าน ที่ทางไร่นำมาเตรียมไว้จำนวนมาก และสำคัญมีรถเข้ามาส่งทุเรียนไม่ขาดสาย รับรองว่ากินกันจนอิ่มทะลุท้องแน่นอน

มาแล้วก็ไม่ต้องรออะไร เข้าไปที่เคาเตอร์ ติดต่อแจ้งจำนวนคนได้เลย ซึ่งจุดนี้บางครั้งเจ้าของไร่  “กุศล ทนังผล”  จะมาค่อยดูแลให้การต้องรับด้วยความเป็นกันเอง เมื่อจ่ายเงินเสร็จก็จะได้รับจานกระดาษมาคนละหนึ่งใบ หลังจากนั้นเลือกได้เลยว่าจะทานอะไร อย่างได้ทุเรียนลูกไหนหยิบไปให้พนักงานผ่าให้ได้เลย จะเดินหยิบกี่รอบก็ได้

ทีเด็ดสำหรับที่นี้คือ ทุกโต๊ะที่มาทานบุฟเฟต์จะได้รับทุเรียนเผาจำนวน 1 ลูก สำหรับทุเรียนเผาถือว่าเป็นเมนูที่หากินได้ยาก หากินได้เฉพาะที่นี้เท่านั้น โดยคนงานจะนำทุเรียนบ้าน ไปเผาในเตาถ่านประมาณ 20 นาที หลังจากนั้นจะนำมาเสิร์ฟให้กับลูกค้า เมื่อปอกออกมาเราจะได้กลิ่นทุเรียนหอมกรุ่นที่แปลกออกไป ลองชิมดูรสชาติอร่อยไปอีกแบบ และเนื้อทุเรียนจะมีความนิ่ม ความหวาน มากขึ้น

นอกจากนั้นยังมี เมนูน้ำปั่น ที่มาแล้วต้องลอง คือ น้ำทุเรียนปั่น ทางไร่น้ำเนื้อทุเรียนมาปั่นรวมกับน้ำแข็ง กลิ่นไม่แรงมากนัก แต่เมื่อชิมแล้วเหมือนกับได้กินไอศกรีมทุเรียน ปล่อยทิ้งไว้สักพักเมื่อน้ำแข็งละลายก็จะได้เมนู น้ำปั่น ที่อร่อยมาก เมนูนี้ทางร้านเสิร์ฟแก้วใหญ่ ในราคาเพียงแก้วละ 50 บาท

แต่ถ้าอยากกินอะไร แซบๆ ขอแนะนำเมนูนี้เลย “ส้มตำมังคุด” รับรองติดใจแน่นอน ส้มตำมังคุด ก็จะเหมือนส้มตำทั่วไป แต่ใช้เนื้อมังคุดแทนมะละกอ ส่วนพริก มะเขือเทศ ถั่วฝักยาว มะนาว ก็เป็นพืชผักที่ทางสวนปลูกเอง รับรองปลอดสารพิษอย่างแน่นอน  นอกจากนั้นยังเมนูอาหารอื่นๆ ให้เลือกสั่งได้อีกหลายเมนู เช่น แกงส้มปลาลูกชก ผัดผักเหมียง โดยเมนูเหล่านี้จะต้องจ่ายเงินเพิ่มนอกเหนือจากราคาบุฟเฟต์ รวมทั้งน้ำดื่ม ที่ทางไร่จำหน่าย ขวดละ 15 บาท

หลังจากอิ่มหนำสำราญกับผลไม้ นานาชนิดแล้ว หันกลับมามองที่โต๊ะนิดหนึ่ง ว่า ผลไม้ที่หยิบมา ทานกันหมดหรือเปล่า ถ้าทานไม่หมดควรจัดการให้หมด เพราะที่นี้มีกฎเกณฑ์ เหมือนกับร้านบุฟเฟต์ ที่อื่นๆเหมือนกัน ถ้าทานไม่หมดต้องถูกปรับ 500 บาท เพราะราคาที่จ่ายไปถือว่าเป็นราคาที่คุ้มสุดคุ้มแล้ว

มาที่นี้ นอกจากจะได้ทานบุฟเฟต์ผลไม้ แบบอิ่มทะลุท้องแล้ว คนที่มียังจะได้สัมผัสกับบรรยากาศ การท่องเที่ยววิถีไทยเก๋ไก๋ สไตล์ลึกซึ้ง ได้ด้วย โดยจะเลือกเข้าสวนเก็บทุเรียน ก่อนที่จะมาทานบุฟเฟต์ หรือทานเสร็จไปเข้าส่วนก็ได้ ซึ่งที่มีมีสวนทุเรียนอยู่ใกล้ เดินเข้าไปนิดเดียวก็จะได้พบกับต้นทุเรียนใหญ่เล็กจำนวนมาก และ  มีลูกทุเรียนหล่นลงมาให้ได้เก็บจริงๆ นอกจากนั้นยังมีต้นมังคุด ลองกอง

ขณะที่ปากทางเข้าสวน เราจะได้สัมผัสกับ แปลงเกษตรแบบผสมผสาน ผักอินทรีย์ปลอดสารพิษ พืชพักสวนครัว ผลไม้ เลี้ยงปลา หมูหลุม แกะ แพะ สาธิต การกรีดยาง และ อื่นๆอีกมาก ทำให้เราสามารถสัมผัสวิถีชีวิตอย่างลึกซึ้ง  ก่อนกลับก็อย่าลืมอุดหนุนผัก ผลไม้สดๆ รวม ถึงผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น อย่างกะปิ ในราคามิตรภาพกลับบ้านด้วย

สำหรับการเดินทางมาที่ไร่รับตะวัน ควรจะมาช่วงๆเช้า เนื่องจากมีคนเดินทางไปจำนวนมาก ถ้าช่วงบ่ายผลไม้จะมีจำนวนน้อยลง โดยเฉพาะวันหยุด คนจะเยอะเป็นพิเศษ และ ทยอยกันเข้ามาเรื่อย ๆ ทั้งแบบครอบครัว และ กลุ่มเพื่อน หากใครไม่ชอบคนเยอะๆ แนะนำมาตั้งแต่ช่วงเช้

การเดินทางไป “ไร่รับตะวัน” ไม่ยุ่งยาก ขับรถมุ่งหน้าออกจากตัวเมืองพังงา ตรงไปถนนทางหลวงที่จะไปสองแพรก จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนที่มุ่งหน้าไปยังอำเภอกะปง ประมาณ 2 กม. เลี้ยวซ้ายข้างป้อมตำรวจ นบปริง จ.พังงา หลังจากนั้นจะมีป้ายบอกตลอดทาง เมื่อเข้ามาถึงไร่มีที่จอดรถกว้างขวาง รับรองไม่มีปัญหาเรื่องที่จอดรถอย่างแน่นอน

สำหรับผู้สนใจติดต่อสอบถามได้ที่ เจ้าของไร่โดยตรง คุณกุศล ทนังผล โทร.093 6095868 FB ไร่รับตะวัน โปรแกรมนี้จัดไปอย่างได้พลาด ถ้าช้า ผลไม้หมด อดกินแน่ เพราะปีนี้ผลไม้มีน้อย จะมีรองรับได้ถึงกลางเดือน สิงหาคม เท่านั้น