ตร.ป่าตองรวบหนุ่มมอญชิงทรัพย์-พยามข่มขืนแต่ผู้ต้องหาปฎิเสธ

ตำรวจป่าตอง จับหนุ่มชาวมอญ ชิงทรัพย์แหม่มสาวชาวรัสเซีย ทำร้ายบาดเจ็บ หมายจะข่มขืน แต่เหยื่อฮึดสู้ ตะโกนเรียกชาวบ้านช่วยเหลือรอดถูกข่มขืนหวุดหวิด ตร.ชุดสืบสวนแกะรอย ตรวจกล้องวงจรปิด นำตัวมาสอบปากคำรับสารภาพชิงทรัพย์จริง แต่ไม่ได้ทำร้ายไม่ได้พยามยามข่มขืน

พ.ต.ท.สมศักดิ์ ทองเกลี้ยง รองผกก.สส.สภ.ป่าตอง พร้อมด้วยพ.ต.ต.กรพล เลี้ยงบุญจินดา สว.สส.สภ.ป่าตอง และเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.ป่าตอง อีกจำนวนหนึ่ง จับกุม นายสำลี แสงจันทร์ อายุ 27 ปี  สัญชาติมอญ ตามหมายจับของศาลจังหวัดภูเก็ต เลขที่ 728/2559 ลงวันที่ 4 พ.ย.2559 ข้อหา”ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิด หรือพาทรัพย์นั้นไปหรือเพื่อให้พ้นการจับกุม และ เป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ” เบื้องต้นให้การรับสภาพว่าได้ก่อเหตุชิงทรัพย์จริง แต่ไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เหตุเกิดที่ บริเวณร้านคนเลี้ยงช้างเก่า ถ.สิริราชย์ ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต เมื่อคืนวันที่ 4 พ.ย.ที่ผ่านมา

พ.ต.ท.สมศักดิ์ กล่าวว่า ในการจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 31 ต.ค.ที่ผ่านมา นางสาววิคตอเรีย (นามสมมุติ) อายุ 30 ปี สัญชาติรัสเซีย ได้มาเที่ยวดื่มกินกับเพื่อนเพื่อฉลองวันฮาโลวีน จนกระทั่งเวลา ตี 2 เศษ ของวันที่ 1 พ.ย. ได้มีนายสำลี แสงจันทร์ (ผู้ต้องหา) ขับรถจักรยานยนต์สวมเสื้อกั๊กเหมือนวินจักรยานยนต์รับจ้างทั่วไป เห็นผู้เสียหายเดินอยู่ก็เข้ามาสอบถามว่าจะใช้บริการแท็กซี่หรือตุ๊กๆ เพื่อกลับที่พักหรือไม่ เมื่อผู้เสียหายตอบว่าต้องการ นายสำลี ก็นำพาผู้เสียหายซ้อนท้ายรถจักรยนต์เพื่อนำไปส่งที่คิวตุ๊กๆเพื่อให้ผู้เสียหายกลับไปยังที่พักที่เดอะรอยัลวัลเล่ย์ ต.ฉลอง

แต่นายสำลี กลับพาผู้เสียหายนั่งรถจักรยานยนต์วนเวียนไปมาหลายรอบและพาออกนอกเส้นทาง เมื่อมาถึงใกล้ร้านคนเลี้ยงช้างเก่า ถ.สิริราชย์ ต.ป่าตอง นายสำลี ก็จอดรถจักรยานยนต์แล้วเข้ามากอด พยายามปล้ำเพื่อหมายข่มขืนแต่ผู้เสียหายขัดขืน และตะโกนเรียกคนมาช่วยเหลือ ก็ถูกนายสำลี ชกใบหน้า 2 ครั้ง จนได้รับบาดเจ็บ จากนั้นนายสำลี ก็ได้ชิงเอาเงินสด 7,000 บาท เงินสกุลดอลล่าห์ 200 ดอลล่าห์ แล้วหลบหนีไป

รองผกก.สส.ป่าตอง กล่าวอีกว่า เมื่อผู้เสียหายเดินทางมาแจ้งความในช่วงเย็นของวันที่ 1 พ.ย.นี้ ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนก็ได้ออกติดตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นผู้เสียหายซ้อนท้ายรถของนายสำลี เจ้าหน้าที่จึงเรียกตัวนายสำลี มาสอบสวน และให้การรับสารภาพว่าได้ลงมือชิงเงินสดของผู้เสียหายจริง แต่ไม่ได้พยามข่มขื่นและไม่ได้ทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย เจ้าหน้าที่จึงเสนอศาลเพื่อออกหมายจับกุมดังกล่าว