ตร.กมลา รวบคนไทยพลัดถิ่น ลักทรัพย์แคมป์คนงาน-บ้านเรือนมูลค่าหลายแสนบาท

โพสเมื่อ : Tuesday, July 18th, 2017 : 11.17 am

คนไทยพลัดถิ่น ตระเวนก่อเหตุลักทรัพย์ แคมป์คนงาน บ้านเรือน หลายพื้นที่ในจังหวัดภูเก็ต ล่าสุด ตำรวจ สภ.กมลา ตามจับกุมได้ พร้อมยึดของกลางมูลค่าหลายแสนบาท รับทำมาแล้วหลายครั้ง  

เมื่อเวลา 22.30 น. วันที่ 17 ก.ค.ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ภายใต้การอำนวยการของ พ.ต.อ.สุขเกษม นครวิลัย ผกก.สภ.กมลา  นำโดย พ.ต.ท.ประมวล  จ่ายกระโทก  รอง ผกก.สส.สภ.กมลา พ.ต.ท.อศลย์ จิรักษา สว.สส.สภ.กมลา เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.กมลา ร่วมกับ นายกฤษณ์ สาริยา ผู้ใหญ่หมู่ 5 ตำบลกมลา นายสัญญา กริชสั้น หัวหน้าชุดชรบ. ม.5 ต.กมลา ผู้ช่วยเจ้าพนักงาน และเจ้าหน้าที่ชรบ. ร่วมกันจับกุม นายสดิด  ขุนฤทธิ์  อายุ 29 ปี  ที่อยู่ 25/2 ม.4 ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.ระนอง ซึ่งเป็นคนไทยพลัดถิ่น

พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์เครื่องมือก่อสร้างกว่า 200 ชิ้น เสื้อผ้าที่สวมใส่ ขณะก่อเหตุ จำนวน 1 ตัว และ รถสามล้อพ่วง สีน้ำเงิน ยี่ห้อ Honda รุ่น wave หมายเลขทะเบียน ขคด – 395 ภูเก็ต  จำนวน 1 คัน โดยสามารถจับกุมได้ที่บริเวณ บ้านพักไม่มีเลขที่ กะหลิมซอย 9 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อเวลา 14.25 น. ของวันที่ 17 ก.ค. 2560 นายประสิทธิ์ มุสิกะ อายุ 47 ปี   ผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัทเคเอ็มไอที คอนทรักชั่น จำกัด ผู้เสียหาย มาแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน สภ.กมลา ว่า เมื่อวันที่ 16 ก.ค.60 เวลาประมาณ 23.35 น. ได้มีคนร้ายเข้ไปขโมยทรัพย์สิน และ เครื่องมือก่อสร้างภายในโครงการก่อสร้าง บริเวณชั้นใต้ดิน ร้านคาเฟ่เดย์มา ถนน กมลา – ป่าตอง ม.3 ต.กมลา อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต ไปหลายรายการ มูลค่าประมาณ 115,010 บาท

หลังจากรับแจ้งเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุม จึงได้สืบสวนหาตัวคนร้าย ดังกล่าวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย  โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดจากภายในโครงการก่อสร้างชั้นใต้ดินของบริษัทพบภาพของคนร้ายในขณะลงมือกระทำความผิดซึ่งสามารถเห็นใบหน้าของคนร้ายได้อย่างชัดเจน  จากนั้นได้นำภาพของคนร้ายดังกล่าวไปทำการสืบสวน และได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดี ผ่านนายกฤษณ์ สาริยา ผู้ใหญ่บ้าน ม.5 ต.กมลา ว่า มีบุคคลที่มีลักษณะตำหนิรูปพรรณเหมือนกับคนร้ายที่ปรากฏในภาพ หลบซ่อนอยู่ที่บ้านพักไม่มีเลขที่  บ้านกะหลิมซอย 9 ต.ป่าตอง อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต

ต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เดินทางไปตรวจสอบยังบ้านหลังดังกล่าวได้พบ นายสดิด ขุนฤทธิ์ เป็นบุคคลไม่มีสถานะทางทะเบียนบ้าน หรือคนไทยพลัดถิ่น กำลังยืนอยู่หน้าบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมจึงได้เข้าไปแสดงตัวเป็นเจ้าพนักงานตำรวจ ในทันใดนั้น นายสดิดฯได้วิ่งหลบหนี ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดวิ่งตามไปจับไว้ได้ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมเข้าไปทำการตรวจค้นภายในบ้านพัก ปรากฏว่า พบของกลางดังกล่าวซุกซ่อนและวางอยู่ภายในห้องเป็นจำนวนมาก จึงได้ควบคุมตัว และตรวจยึดของกลางมาสอบสวนขยายผล

จากการสอบถาม นายสดิดฯ ยอมรับว่า ตนได้ก่อเหตุดังกล่าวจริง โดยทำเพียงคนเดียว และยังก่อเหตุในลักษณะเดียวกันในพื้นที่ ตำบลกมลา อีก 2 ครั้ง ตำบลเชิงทะเล 1 ครั้ง ตำบลเกาะแก้ว 1 ครั้ง และ ตำบลกะทู้  1  ครั้ง ทรัพย์สินที่ขโมยได้มานั้นตนได้นำเอาไปขายแล้วเอาเงินมาใช้ในชีวิตประจำวัน และยังยอมรับอีกว่า ยังมีทรัพย์สินที่ขโมยมาเก็บไว้ในบ้านพักของตนเองอีกหลายรายการ พร้อมกับได้นำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปตรวจยึดทรัพย์สินต่อไป ดดยทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้มีมูลค่าหลายแสนบาท

อย่างไรก็ตาม ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อกล่าวหา “ลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะฯ ” ในเบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพตลอดข้อกล่าว พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.กมลา เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป อย่างไรก็ตาม ทางสภ.กมลาฝากประชาสัมพันธ์ถึงไซด์งานต่างๆ ที่มีทรัพย์สินสูญหายสามารถไปดูได้ที่ สภ.กมลา