ญาติแห่ศพเหยื่อตำรวจวิสามัญประท้วงหน้าศาลากลางภูเก็ตระบุทำเกินกว่าเหตุ

โพสเมื่อ : Saturday, September 22nd, 2018 : 5.03 pm

ญาติแห่ศพเหยื่อตำรวจวิสามัญ หลังขับรถแหกด่านตรวจในพื้นที่ สภ.เมืองภูเก็ต หนีไกลถึงเชิงทะเล ประท้วงหน้าศาลากลาง เรียกร้องขอความเป็นธรรม เจ้าหน้าที่ทำเกินกว่าเหตุ

เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันนี้ ( 22 ก.ย.) นายอรุณ  เครือจันทร์ บิดา พร้อมด้วย มารดา ภรรยา และญาติ รวมทั้งเพื่อนๆ ของนายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ อายุ 29 ปี ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญเสียชีวิต ในพื้นที่ ต.เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต หลังขับรถแหกด่านตรวจ ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ตที่ตั้งด่านตรวจบริเวณ บริเวณซอยเสียงใต้ ต.รัษฎา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เหตุเกิดเมื่อวันที่ 18 ก.ย.ที่ผ่านมา ได้ร่วมกันแห่ศพ ของนาย นายชิษณุพงษ์ ออกจากวัดอนุภาษกฤษฎาราม หรือ วัดเก็ตโฮ่ อ.กะทู้ จ.ภูเก็ต มายังศาลากลางจังหวัดภูเก็ต

เพื่อเรียกร้องขอความเป็นธรรม กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจทำเกินกว่าเหตุที่บริเวณประตูหน้าทางเข้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยบริเวณรถมีการเขียนป้ายข้อความว่า “ เรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ผู้ตาย นายชิษณุพงษ์ เครือจันทร์ (น้องเอ็ม)  กรณีถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองภูเก็ต และ เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เชิงทะเล ระดมยิงวิสามัญ โดยผู้ตายไม่มีการตอบโต้และต่อสู้- ญาติใคร่ขอเรียกร้องความเป็นธรรมจากท่านผู้บังคับการตำรวจจังหวัดภูเก็ตและท่านผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ให้พิจารณาเพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ตายและครอบครัวด้วย  เป็นต้น

โดยมีนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต พล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต พ.ต.อ.สมพงษ์ ทิพย์อาภากุล ผกก.สภ.เมืองภูเก็ต พ.ต.อ.อกนิษฐ์ ด่านพิทักษ์ศาสตร์ ผกก. สส. ภ.จว.ภูเก็ต พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ร่วมรับฟังข้อร้องเรียน และชี้แจงถึงกรณีที่เกิดขึ้น

นายอรุณ เครือจันทร์ บิดาของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ความรู้สึกที่เกิดขึ้น หากไม่เกิดกับครอบครัวของทุกคนคงจะไม่รู้ว่าเจ็บขนาดไหน หากลูกตนเป็นคนผิดก็สมควรจับไปลงโทษดำเนินคดีตามกฎหมาย ไม่ใช่มาระดมยิงใส่แบบนี้ สิ่งที่เกิดเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ เรียกร้องให้ย้ายตำรวจที่ก่อเหตุทั้งหมดออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง หากไม่ย้ายออกไปจะไม่เผาศพ จะตั้งประท้วงจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม  รวมทั้งขอให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 9 นาย

นายอรุณ กล่าวต่อไปว่า ส่งที่ตนสงสัยคือการกระทำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ อยากให้ตรวจสอบว่าลูกชายของตนขับรถแหกด่านจริงหรือไม่ และที่สำคัญในช่วงที่ที่ตำรวจขับรถไล่รถลูกชายตนไปจนติดฟุตบาท ซึ่งไม่สามารถหนีไปไหนได้แล้ว ทำไมทางเจ้าหน้าที่ตำรวจถึงไม่เรียกให้ลงจากรถแทนที่จะยิงปืนเข้าใส่จนเสียชีวิต  นอกจากนั้นจากการตรวจสอบพบว่าอาวุธปืนทั้ง 2 กระบอกที่อยู่ในรถยังไม่มีการยิงออกมาเลยแม้แต่นัดเดียว กระสุนยังอยู่ครบ จะมาบอกว่าลูกชายตนยิงออกมาจึงเป็นไปไม่ได้ การกระทำในครั้งนี้ถือว่าเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุของเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตามนายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และเร่งรัดให้มีการดำเนินการเกี่ยวข้องเรื่องนี้โดยเร่งด่วน โดยเฉพาะในการตรวจสอบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยขอให้ญาติ หรือผู้เห็นเหตุการณ์ ส่งข้อมูลหลักฐานมาให้กับทางเจ้าหน้าที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อใช้ในการประกอบการพิจารณา

ขณะที่พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวว่า ในส่วนของการดำเนินการนั้นขณะนี้ได้ส่งพยานหลักฐานไปตรวจพิสูจน์ ส่วนกรณีมีการเรียกร้องให้ย้ายตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ภายใน 24 ชั่วโมง ซึ่งคนได้เสนอไปยังผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อเสนอย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจจำนวน 9 นาย ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจสังกัด สภ.เมือง และ ตำรวจ สภ.เชิงทะเล

ส่วนการแจ้งข้อหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้นคาดว่าในวันอังคารนี้ จะแจ้งขอกล่าวหากับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาฆ่าคนตาย นอกจากนั้นในส่วนของตำรวจ ก็ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้วเช่นกัน

พล.ต.ต.ธีระพล กล่าวต่อว่า ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิตด้วย ตั้งแต่วันแรกที่เกิดขึ้นตนได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เก็บพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุไว้ทั้งหมด คดีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ทำคดีเพียงฝ่ายเดียว แต่มีอัยการ แพทย์และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องทุกฝ่ายเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุในส่วนกระบวนการสอบสวน ตนยินดีให้ตรวจสอบทุกขั้นตอน ในส่วนข้อเรียกร้องที่ให้ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ก่อเหตุทั้งหมด 9 นาย ออกนอกพื้นที่ภายใน 24 ชั่วโมง และจะแจ้งข้อกล่าวหาตำรวจทั้ง 9 นาย ที่ก่อเหตุในข้อหา ร่วมกันฆ่าผู้อื่นฯ

อย่างไรก็ตามหลังมีการมีการหารือร่วมกัน และรับปากว่าจะมีการย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ในเหตุการณ์ทั้ง 9 นายออกพ้นพื้นที่ พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา ทางญาติพอใจผลการเจรจา จึงยอมนำศพของผู้เสียชีวิตออกจากหน้าศาลากลางจังหวัดภูเก็ต โดยจะนำศพกลับไปเก็บไว้ที่วัดกะทู้ และยืนยันจะไม่เผาจนกว่าจะมีผลทางคดีที่ชัดเจนออกมา