ชาวบ้านที่ภูเก็ตร้องเดือดร้อนหลังถูกฟ้องไล่ที่อยู่อาศัยเชื่อเป็นที่ดินมือเปล่า

โพสเมื่อ : Wednesday, December 6th, 2017 : 12.14 pm

ชาวบ้านชุมชนประชาสามัคคี จ.ภูเก็ต ดิ้นสู้ขอที่อยู่อาศัย รุกยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัด ขอความช่วยเหลือ หลังทราบข่าวคนอ้างสิทธิครอบครองที่ดินฟ้องขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่ เชื่อที่ดินหมด สัมปทานเหมืองแร่เป็นที่ดินมือเปล่าไร้คนครอบครอบ

เมื่อเวลา 9.00 น. วันนี้ ( 6 ธ.ค.) ที่ศาลากลางจังหวัดภูเก็ต ชาวบ้านชุมชนประชาสามัคคี หมู่2 ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต. ประมาณ 100 คน นำโดย สุรศักดิ์ ไถนาเพรียว ประธานชุมชน นายวีรายุทธ เจ๊ะโซ๊ะ เลขาชุมชนเดินทางมายื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ผ่านทางนายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ขอความช่วยเหลือและคุ้มครองสิทธิ ในการครอบครองที่ดิน ซึ่งชาวบ้านอาศัยอยู่ในปัจจุบัน โดยอ้างว่า ได้รับความเดือดร้อนหลังมีผู้อ้างสิทธิในที่ดินแปลงดังกล่าว ว่า เป็นที่ดินมรดก และมีการฟ้องร้องชาวบ้านจำนวน 70 รายไปก่อนหน้านี้

นายสุรศักดิ์  กล่าวว่า การเดินทางมายื่นหนังสือในครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านซึ่งอาศัยอยู่ในที่ดินที่ชาวบ้านเข้าใจว่าเป็นว่าเป็นดินว่างเปล่า ซึ่งเป็นที่ดินประธานบัตรเหมืองแร่ที่สิ้นสุด ชาวบ้านจึงเข้าไปอาศัยในที่ดินดังกล่าว ประกอบกับเมื่อปี 2548 ทางอำเภอเมืองภูเก็ตได้ปิดประกาศให้ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่มือเปล่าให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ทำให้ชาวบ้านเข้าไปอาศัยเพิ่มมากขึ้น และอาศัยกันมาเป็นเวลายาวนานกว่า 10 ปีแล้ว มีการทำถนน ขอไฟฟ้าเข้าพื้นที่ และตั้งเป็นชุมชนประชาสามัคคี ขึ้น ในปัจจุบัน

ซึ่งการเข้ามาสร้างที่อยู่อาศัย และทำกินของชาวบ้าน เป็นการใช้ประโยชน์ในที่ดินเป็นไปอย่างเปิดเผย มีการพัฒนาพื้นที่อย่างโจ่งแจ้ง มีชาวบ้านอาศัยกันอยู่ประมาณ 300 ครัวเรือน บนเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ แต่เมื่อปี 2560 ประชาชนทราบว่ามีกลุ่มบุคคลอ้างว่าที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่ดินมรดก และได้มีการฟ้องร้องขับไล่ชาวบ้านออกจากพื้นที่เป็นเหตุให้ชาวบ้านเดือดร้อน และในวันพรุ่งนี้ ศาลได้คำสั่งให้สำนักงานที่ดินจังหวัดภูเก็ตโจทย์ที่อ่างสิทธิ์ครอบครอง และชาวบ้านที่ถูกฟ้องร้อง ร่วมกันชี้แนวเขตที่ดินเพื่อทำแผ่นที่พิพาทส่งให้กับทางศาล จึงอยากเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือเนื่องจากขณะนี้ชาวบ้านกำลังได้รับความเดือดร้อน ซึ่งชาวบ้านที่เชื่อว่าที่ดินแปลงดังกล่าเป็นที่ดินของรัฐ

อย่างไรก็ตามหลังจากรับหนังสือร้องเรียน นายประกอบ วงศ์มณีรุ่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต กล่าวว่า จะนำเรื่องนี้ส่งต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง ส่วนกรณีการเข้าไปรังวัดที่ดินเพื่อทำแผ่นที่พิพาทตามคำสั่งศาลก็ต้องดำเนินการ ซึ่งเป็นการเข้าไปชี้แนวเขตในส่วนของโจทย์และจำเลยที่มีการฟ้องร้องกัน ส่วนปัญหาเรื่องที่ดินก็คงต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบเพื่อความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย

สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่ประมาณ 300 ไร่ ก่อนหน้านี้มีการฟ้องร้องกันระหว่างชาวบ้านและผู้อ้างสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ซึ่งขณะนี้คดีอยู่ในชั้นศาล และ เมื่อปี 2548 ทางอำเภอได้เข้าไปติดป้ายประกาศให้ที่ดินแปลงดังกล่าวเป็นที่มือเปล่าให้ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันเป็นที่อยู่อาศัยและที่ทำกิน ต่อมาเมื่อปี 2549 ผู้อ้างสิทธิครอบครอบที่ดินได้ฟ้องร้องหน่วยงานรัฐ ซึ่งขณะนี้ศาลฎีกาพิพากษา ห้ามไม่ให้อำเภอและจังหวัดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับที่ดินแปลงดังกล่าว