กินแล้วอาหารแล้วจระเข้เลพังหลังไม่ยอมกินอะไรมานานนับเดือน

โพสเมื่อ : Friday, September 29th, 2017 : 3.21 pm

เจ้าเลพัง จระเข้ที่ถูกจับได้ในขุมน้ำขนาดใหญ่ใกล้หาดเลพัง จ.ภูเก็ต  ภูเก็ตยอมกินซี่โครงไก่แล้ว หลังจากอดอาหารมาเป็นเวลาร่วมเดือน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมสรุปหาแนวการดูแลต่อไป ขณะที่ผลตรวจดีเอ็นพิสูจน์เป็นจระเข้ตามธรรมชาติหรือลูกผสม คาดออกมาเร็วๆนี้

จากกรณีเจ้า “เลพัง” จระเข้เพศผู้ น้ำหนักประมาณ 200 กิโลกรัม ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับตัวได้จากขุมน้ำบริเวณหน้าหาดเลพัง อ.ถลาง จ.ภูเก็ต เมื่อวันที่ 1 ก.ย.ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ได้มีชาวต่างชาติใช้โดรนบินถ่ายภาพไว้ได้ขณะที่จระเข้เลพัง กำลังว่ายน้ำที่หน้าชายหาดเลพัง ซึ่งสร้างความตื่นเต้นและตื่นกลัวให้กับประชาชนในพื้นที่ จนทางจังหวัดโดยผู้ว่าราชการจังหวัดต้องตั้งทีมไล่ล่าเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยว

 

หลังจากเจ้าหน้าที่จับตัวจระเข้ตัวดังกล่าวได้ ก็ได้นำตัวไปพักไว้ที่บ่อเลี้ยง ภายในศูนย์วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำชายฝั่งเขต 5 ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงชายฝั่งภูเก็ต บ้านพารา ต.ป่าคลอก อ.ถลาง จ.ภูเก็ต ชั่วคราว ระหว่างรอผลการตรวจพันธุกรรมของเจ้าเลพัง เพื่อหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาและจัดหาที่อยู่ที่เหมาะสมให้กับเจ้าเลพังต่อไป ไม่ว่าจะเป็นจระเข้น้ำเค็มสายพันธุ์แท้หรือ ลูกผสมไฮบริด ซึ่งขณะนี้ผลการตรวจดีเอ็นเอยังไม่ออก เจ้าเลพังยังคงอยู่ในบ่อซีเมนต์ไปก่อน

 

อย่างไรก็ตามหลังจากทางเจ้าหน้าที่นำเจ้าเลพัง มาพักที่บ่อพักชั่วครัวได้เกือบ 1 เดือน ล่าสุดวันนี้ (29ก.ย.) พบว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี ที่เจ้าเลพัง ยอมกินซี่โครงไก่ที่เจ้าหน้าที่ให้แล้ว หลังจากก่อนหน้านี้ไม่ยอมกินอะไร ไม่ว่าจะเป็นปลาตาย ปลาเป็น ซี่โครงไก่ ซึ่งจากการสอบถามจากเจ้าหน้าที่ที่ดูแลเจ้าเลพัง ทราบว่า เจ้าเลพังยังมีร่างกายแข็งสมบูรณ์ สามารถว่ายน้ำได้ตามปกติ แต่ส่วนใหญ่จะนอนนิ่งๆในน้ำ ซึ่งในบ่อมีการสร้างกองทรายขึ้นมา เพื่อให้เจ้าเลพังปีนขึ้นไปพักบนกองทรายดังกล่าว

 

สำหรับการให้อาหาร ตลอด 25 วันที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ได้ให้อาหารทั้งปลาเป็นและปลาตายลงไปในบ่อ แต่เจ้าเลพังไม่ยอมกิน รวมทั้งนำปลาใส่ตะแกรงและและนำไปใกล้ปากของเจ้าเลพังก็ไม่สนใจที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำทุกวิธีเพื่อให้ เจ้าเลพังกินอาหาร จนกระทั้งวันนี้ เจ้าหน้าที่ได้นำโครงไก่ใส่ลงไปในบ่อ เมื่อเจ้าเลพังเห็นก็ว่ายน้ำเข้ามางับและกินทันทีสร้างความดีใจให้กับเจ้าหน้าที่ดูแลเป็นอย่างมาก ขณะที่ผลตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าเลพังเป็น จระเข้น้ำเค็มแต่ หรือเป็นลูกผสม ยังไม่มา แต่คาดว่าจะทราบผลเร็วนี้  ซึ่งหากทราบผลแล้วคงต้องให้กรมอุทยานฯ เป็นแม่งานหลักในการจัดหาสถานที่เหมาะสมให้กับเจ้าเลพังต่อไป